วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) หรือเรียกสั้นๆว่าไวรัส คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บุกรุกเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยที่ไม่ได้รักความยินยอมจากผู้ใช้ ส่วนมากมักจะพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างความเสียหายให้กับระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ ซึ่งไวรัสถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้
1.ไวรัสพาราสิต (parasitic virus) ไวรัสประเภทนี้เริ่มทำงานและจำลองตัวเอง เมื่อมีการเรียกใช้งานไฟล์ที่ติดไวรัส ไวรัสคอมพิวเตอร์ส่วนมากจะเป็นประเภทนี้
2.ไวรัสบูตเซกเตอร์ (boot sector virus) ไวรัสประเภทนี้จะฝังตัวเข้าไปในบูตเซนเตอร์ แทนที่คำสั่งที่ใช้ในการเริ่มต้นการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์  เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นใช้งานไวรัสประเภทนี้ก็จะโหลดตัวเองเข้าไปที่หน่วยความจำก่อนที่จะโหลดระบบปฏิบัติการ หลังจากนั้นจะสำเนาตัวเองไปฝังอยู่กับไฟฟือื่นๆด้วย
3.ไวรัสสเตล (stealth virus) ไวรัสประเภทนี้เป็นไวรัสที่มีความสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อยู่ในรูปแบบที่โปรแกรมป้องกันไวรัสต่างๆตรวจไม่พบ แล้วเมื่อไปติดกับโปรแกรมใดจะทำให้โปรแกรมนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
4.ไวรัสโพรีมอร์ฟิก (polymorphic virus) ไวรัสประเภทนี้จะมีการเปลี่ยนแปลตัวเองทุกครั้งที่ติดต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะส่งผลทำให้ไวรัสประเภทนี้ตรวจพบได้ยาก
5.ไวรัสแมโคร (macro virus) ไวรัสประเภทนี้จะมีผลกับ macro Appiltation (มักจะพบในโปรแกรมประเภท Word Processore) เมื่อผู้ใช้เลือกไฟล์ที่มีไวรัสติดมาด้วย จะทำให้ไวรัสไปฝังตัวอยู่ที่หน่วยความจำจนเต็ม ซึ่งจะทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้าลง และอาจส่งผลเสียกับข้อมูลที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ได้

6.หนอนอินเตอร์เน็ต (worms) เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ติดต่อกับในอินเตอร์เน็ตสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยไวรัสชนิดนี้จะคัดลอกตัวเองซ้ำ แล้วระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อในการแพร่กระจายซึ่งโดยทั่วไปจะมากับเมล ตัวอย่างของหนอนอินเตอร์เน็ต คือ Adore โดยจะทำการค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ Linux หลังจากนั้นจะสร้างช่องทางทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้แฮกเกอร์ (hacker) สามารถเข้าไปยังคอมพิวเตอรืเครื่องนั้นได้ 

ที่มา//หนังสือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.2 

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สู้เพื่อแม่

สู้เพื่อแม่
          น้ำใดว่าสดใสสะอาดน้ำสระอโนดาดยังไม่สะอาดเท่าน้ำใจแม่เพราะเป็นน้ำกลั่นจากรักแท้จากยอดดวงใจแม่ที่มอบให้แด่ลูกยาน้ำทะเลยังมีขึ้นมีลงน้ำใจแม่มั่นคงซื่อตรงอยู่ทุกเวลา น้ำฝนยังตกในบางครา แต่น้ำใจมารดา มีให้ตลอดไป น้ำตาลใส่น้ำผึ้งยังไม่หวานซึ้งเท่าน้ำนมมารดาจากเลือดในอกกลั่นด้วยความเสน่หา หล่อเลื้ยงลูกมาจนเจริญวัย หยาดน้ำฟ้ายามต้องแสงตะวันช่างงามเฉิดฉันท์มีสีรุ้งพร่างพราย แต่ไม่งามเท่าน้ำหล่อเลี้ยงดวงนัยน์ที่แลดูห่วงใยในบุตรธิดาอาจหยิบรุ้งใส่ในฝ่ามือและอาจถือไปทั่วหล้าแต่ไม่อาจพร่ำพรรณนา ถึงพระคุณมารดาให้หมดได้เลย
           แม่ผู้เป็นเหมือนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตท่านเป็นผู้ให้และท่านก็ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของท่านแม้เเต่น้อย แต่ท่านต้องการให้ลูกเป็นคนดีของสังคม ประเทศฃาติ และเป็นคนดีของแม่ จากคำกล่าวที่ว่าแม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ทำให้ฉันมานั่งคิดไตรตรองดูแล้วจึงพบว่าแม่มีพระคุณกับตัวเรามาก มากจนถึงขั้นว่าเราไม่อาจจะตอบเเทนพระคุณที่ท่านมอบให้แด่เราได้หมด เงินทองนั้นแม่ไม่ต้องการจากเราแม่ไม่ได้หวังให้เราโตมาเพื่อเลี้ยงดูท่าน แต่ที่แม่เราหวังมากที่สุดคือให้เราเติบโตอย่างมีคุณภาพเพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีและดำเนินชีวิตอยู่ได้แม้ไม่มีท่าน การที่แม่ด่าว่าเราหรือตีเรานั้น แม่ทำเพื่อเราทั้งหมดเพราะนั่นคือวิธีสั่งสอนให้เราจำว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี เพื่อให้เรารู้ถุกรู้ผิด เราอาจจะมีโกรธหรือน้อยใจแม่บ้างแต่จงจำไว้ว่าการที่แม่ตีเราให้เราเจ็บนั้นแม่เจ็บเสียยิ่งกว่าเราหลายพันเท่า การที่เราเถียงแม่ โยนข้าวของหรือเเม้กระทั่งทุบตีท่าน ท่านไม่เคยโกรธเราเลยแต่ท่านอโหสิกรรมให้เราเพราะท่านไม่ต้องการให้เรามีกรรม แต่ไม่ว่าอย่างไรกรรมใครก็กรรมมันอยู่ดีนั่นแหละ เราจงทำดีกับท่านตั้งแต่วันนี้เสียเราจงเป็นคนดีให้ท่านดูตั้งแต่วันนี้ เราจงบอกรักท่าน พูดคำขอโทษหรือความในใจตั้งแต่วันนี้เสีย เพราะว่าท่านไม่อาจจะอยู่กับเราได้ตลอดพูดไปเถอะก่อนที่วันนึงเราจะพบว่าเราไม่มีโอกาศที่จะบอกท่านอีกแล้ว จงพุดไปเถอะก่อนที่มันจะสายไป ท่านต้องการได้ยินวันนี้ ตอนนี้ ตอนที่ท่านสามารถรับรู้อะไรได้ไม่ใช่ตอนที่ท่านจากไปแล้ว เราไปนั่นเคาะข้างๆโลกศพเพื่อเรีกท่านมากินข่าว เพื่อบอกท่านว่าเรารักท่าน เพื่อบอกท่านว่าเราไม่อยากจากไป หรือจะไปนั่งหน้าสุสานเพื่อกล่าวคำขอโทษแก่คนตายที่ไม่มีวันหวนกลับ พูดและทำเสียเถอะก่อนที่มันจะสายไป......




หากค้นหา  ความรัก  จากทั่วหล้า
หลอมรวมมา   เป็นรัก    ที่ยิ่งใหญ่
มอบแด่แม่  ให้ทุกวัน  กลั่นจากใจ
ไม่อาจทด  แทนได้  ในพระคุณ
....................................................................














วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สิ่งที่ฉันเจอในวันนี้

สิ่งที่ฉันเจอในวันนี้
วันนี้มีอาจารย์ท่านหนึ่งนัดส่งงานแล้วฉันไม่ได้นำงานมาส่งแต่ได้ถ่ายรูปผักออแกนนิคที่หน้าอาคารหนึ่งมาแทน มีเพื่อนอึกหลายคนที่ทำเช่นเดียวกับฉันแต่เขาส่งรูปภาพนั้นไห้อาจารย์ดู อาจารย์จึงบอกไห้เพื่อนๆกลุ่มนั้นปั่นจิ้งหรีด 6 ครั้ง คือซ้าย3 ขวา 3 นั่นเอง เพราะอาจารย์ได้บอกกับห้องเราว่ามีคนที่ส่งงานแต่ส่งงานที่ไม่ได้ทำขึ้นมาด้วยตนเอง ก็อคือไม่ซื่อสัตย์ต่อจิตใจตนเอง แต่อาจารย์ท่านนี้ได้บอกแก่กลุ่มคนซึ่งก็มีตัวฉันรวมอยู่ด้วยว่า ให้พวกเราลุกนั่งอย่างพร้อมเพรียงกันดดยนำจำนวนคนไม่ได้ส่งงานมาหารไปด้วย2 นั่นก็คือ 20x2=40 นั่นเอง แต่พวกเราลุกนั่งไม่พร้อมกันบ้างก็นั่งบ้างก็ลุก จึงต้องนับหนึ่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง อาจารย์แบ่งการลุกนั่งของเราเป็นเซ็ตโดยแบ่งเป็น2เซ็ต 20/20 แล้วเปลี่ยนเป็น 4 เซ็ตคือ 10/4 แต่การทำโทษครั้งนี้ก็มีข้อคิดมากมาย คือ พวกเราได้ฝ฿กความสามัคคีกันในหมุ่เพื่อน แล้วก็ฝ฿กให้พวกเรานั้นมีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายด้วย...
 ปล.ปวดขาลงบรรไดไม่ได้ร้องไห้หนักมาก T^T

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การสื่อสารข้อมูล หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้รับและผู้ส่งโดยผ่าน ช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับ เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เครือข่ายคอมพิวเตอร์หมายถึง การนำคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ข้างเคียงต่าง ๆ มาเชื่อมต่อถึงกันโดยใช้สายเคเบิ้ลเป็นสื่อกลางในการ
แลกเปลี่ยนชุดข้อมูล ชุดคำสั่ง และข่าวสารต่าง ๆ ระหว่างคอมพิวเตอร์ กับ คอมพิวเตอร์และระหว่างคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ข้างเคียง
การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกันได้

สิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร การโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน หรือการนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร เช่น แบ่งกันใช้ซีพียู แบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถจัดหาให้ทุกคนได้ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่าย
จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้นจากเดิม

การส่งข้อมูล
  • การสื่อสารแบบซิมเพล็กซ์ หรือการสื่อสารแบบทางเดียว (One-way communication) 
    ประกอบด้วยช่องสัญญาณเพียงช่องเดียว และปลายทางด้านหนึ่งเป็นผู้รับ ตัวอย่างเช่น การกระจายเสียงของสถานีวิทยุต่าง ๆ การแพร่ภาพทางโทรทัศน์ การส่งน้ำตามท่อหรือการจราจรระบบทางเดียว เป็นต้น
  • ผู้ส่ง >>>>> ช่องสัญญาณ >>>>> ผู้รับ
  • การสื่อสารแบบฮาล์ฟดูเพล็กซ์ หรือการสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่ง 
    การส่งข้อมูลผ่านช่องสัญญาณเดียวนั้นจะสามารถส่งไปได้ทั้งสองทาง แต่ต้องสลับกัน จะส่งในเวลาเดียวกันไม่ได้ ตัวอย่างเช่น วิทยุสื่อสารในรถตำรวจ นั่นคือเมื่อผู้รับได้รับข้อมูลแล้ว ผู้รับจะใช้ระยะเวลาหนึ่งในการตีความ และทราบว่าข้อมูลจากผู้ส่งหมดแล้ว และพร้อมที่จะตอบกลับไปซึ่งช่วงเวลานี้เรียกว่า Reaction time และเมื่อผู้รับต้องการส่งข้อมูลตอบกลับไปจะมีการกดสวิตช์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนสภาวะจากผู้รับเป็นผู้ส่ง ช่วงเวลาที่กดสวิตช์นี้เรียกว่า Line turnaround time รวมกันเรียกว่า System turnaround time 

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รายการหอมแผ่นดิน

หอมแผ่นดิน ตอน เลือกทางฝัน

พัชรี เอี่ยมประชา ล้มเหลวจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว หันกลับมาสู่วิธีเกษตรที่พยายามพึ่งพาตนเอ­ง เลิกใช้สารเคมี เลือกปลูกพืชที่ต้นทุนการผลิตน้อย โดยเริ่มจากพืชผักสวนครัว และก้าวเข้าสู่การปลูกกุยช่าย



ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=6CEVBA5LP2U


หอมแผ่นดิน ตอน ผืนดินทองคำ

จากอดีตครู ที่ต้องกลับไปทำอาชีพเกษตรกร อาชีพที่ไม่อยากจะทำ แต่เมื่อต้องมาแล้ว ดวงทิพย์ สายโสภา จึงลงมือทำมันอย่างตั้งใจ เธอและสามีช่วยกันพลิกผืนดิน ที่อ.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้มีคุณค่า เธอยังทดลองนำ พริกไทย พืชที่ไม่ค่อยมีคนปลูกบนเขาค้อ

ทีมา https://www.youtube.com/watch?v=nSRWPjhHE5w


หอมแผ่นดิน ตอน เริ่มต้น...ที่หัวใจ

เกษตรกรสวนมะนาว ทรงศักดิ์ เขียวคลี่ เกษตรกรคนเก่ง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แม้ช่วงชีวิตหนึ่งเคยหลงไปในวังวนของการทำ­สวนมะนาวเคมี แต่ในวันนี้เขาพบทางออกสู่การทำสวนมะนาวอิ­นทรีย์ที่ปลอดภัยต่อตนเองและผู้บริโภค
เมื่อเคมีที่เคยให้ผลดีก่อผลร้าย ทรงศักดิ์ตัดสินใจสมัครเป็นหมอดินอาสา เพื่อหวังนำความรู้มาใช้ในสวนมะนาว ปรับปรุงแก้ปัญหาดินเสื่อมสภาพจากการใช้เค­มีหน้าดิน เขาเริ่มทำการปลูกแฝกเพื่อพลิกชีวิตดินชั้­นดีให้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง และเริ่มทำปุ๋ยหมักที่ถือเป็นปัจจัยแรกในก­ารลดทุนการผลิตไว้ใช้ในสวนมะนาว 
ปัญหาโรครากเน่าที่ระบาดในต้นมะนาวแป้น เป็นปัญหาใหญ่ที่เกษตรกรสวนมะนาวพบเจอ ทำให้เขาศักดิ์คิดหาวิธีในการหาต้นพันธุ์ท­ี่แข็งแรงต้านทานโรคจนมาพบกับต้นมะนาวยักษ­์ผลใหญ่ ที่มีลำต้นแข็งแรง เขาจึงลองผิดลองถูกกับการเสียบยอดมะนาวแป้­นบนตอมะนาวยักษ์ จนวันนี้มะนาวในสวนที่เคยเป็นโรค รอวันตาย มีรากฐานต้นที่แข็งแรง ผลิตมะนาวออกมาได้ผลใหญ่น้ำดี เป็นมะนาวแป้นที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดและยัง
­สามารถกำหนดราคาผลผลิตของตนเองได้อีกด้วย


ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=Oj7UqK3vF2w

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เศรษฐกิจพอเพียง

 จุดเริ่มต้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ผลจากการใช้แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายในเชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน 
สำหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกนั้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น แต่ผลด้านบวกเหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบท หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อย 
แต่ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้เกิดผลลบติดตามมาด้วย เช่น การขยายตัวของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายด้าน ทั้งการต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ระบบความสัมพันธ์แบบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรที่เคยมีอยู่แต่เดิมแตกสลายลง ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสมปรับเปลี่ยนกันมาถูกลืมเลือนและเริ่มสูญหายไป 
สิ่งสำคัญ ก็คือ ความพอเพียงในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีภายใต้อำนาจและความมีอิสระในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง ความสามารถในการควบคุมและจัดการเพื่อให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความต้องการต่างๆ รวมทั้งความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพื้นฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่เดิม ต้องถูกกระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความอ่อนแอของชนบท รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นข้อพิสูจน์และยืนยันปรากฎการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี 

3 ห่วง คือทางสายกลาง ประกอบไปด้วย ดังนี้
  • ห่วงที่ 1 คือ พอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไปโดยต้องไม่เบียดเบียนตนเอง หรือผู้อื่นให้เดือดร้อน
  • ห่วงที่ 2 คือ มีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ
  • ห่วงที่ 3 คือ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
2 เงื่อนไข ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่
เงื่อนไขที่ 1 เงื่อนไขความรู้ คือ มีความรอบรู้เกี่ยวกับ วิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังในขั้นตอนปฏิบัติ คุณธรรมประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต

เงื่อนไขที่ 2 เงื่อนไขคุณธรรม คือ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต


นั่นคือสรุปรวบยอดของ เศรษฐกิจพอเพียง สรุปได้เป็น 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ดังที่ได้กล่าวมา หลายๆคนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ แล้วคงกระจ่างกันสักที เกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียงแบบ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น

หลักการและแนวทางสำคัญ 
 - นาข้าว ๕ ไร่ 
                        - พืชไร่ พืชสวน ๕ ไร่ 
                        - สระน้ำ ๓ ไร่ ขุดลึก ๔ เมตร จุน้ำได้ประมาณ ๑๙,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เพียงพอที่จะสำรองไว้ใช้ยามฤดูแล้ง 
                        - ที่อยู่อาศัยและอื่นๆ ๒ ไร่ 
                        รวมทั้งหมด ๑๕ ไร่ 
                        แต่ทั้งนี้ ขนาดของสระเก็บน้ำขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม ดังนี้ 
                        - ถ้าเป็นพื้นที่ทำการเกษตรอาศัยน้ำฝน สระน้ำควรมีลักษณะลึก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหยได้มากเกินไป ซึ่งจะทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี                         - ถ้าเป็นพื้นที่ทำการเกษตรในเขตชลประทาน สระน้ำอาจมีลักษณะลึก หรือตื้น และแคบ หรือกว้างก็ได้ โดยพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะสามารถมีน้ำมาเติมอยู่เรื่อยๆ 

 ประโยชน์ของทฤษฎีใหม่
๑. ให้ประชาชนพออยู่พอกินสมควรแก่อัตภาพในระดับที่ประหยัด ไม่อดอยาก และเลี้ยงตนเองได้ตามหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง”
๒. ในหน้าแล้งมีน้ำน้อย ก็สามารถเอาน้ำที่เก็บไว้ในสระมาปลูกพืชผักต่างๆ ที่ใช้น้ำน้อยได้ โดยไม่ต้องเบียดเบียนชลประทาน 
๓. ในปีที่ฝนตกตามฤดูกาลโดยมีน้ำดีตลอดปี ทฤษฎีใหม่นี้สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้โดยไม่เดือดร้อนในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ 
๔. ในกรณีที่เกิดอุทกภัย เกษตรกรสามารถที่จะฟื้นตัวและช่วยตัวเองได้ในระดับหนึ่ง โดยทางราชการไม่ต้องช่วยเหลือมากนัก ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณด้วย 

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ซอฟท์แวร์ คืออะไร ?


ความจำเป็นของการใช้ซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้






โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้
การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้มากมาย เพราะว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาให้เราสั่งงานคอมพิวเตอร์ ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน บริษัทขายตั๋วใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋ว คอมพิวเตอร์ช่วยในเรื่องกิจการงานธนาคารที่มีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย คอมพิวเตอร์ช่วยงานพิมพ์เอกสารให้สวยงาม เป็นต้น การที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการให้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญมาก และเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ








ซอฟท์แวร์และภาษาคอมพิวเตอร์

เมื่อมนุษย์ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงาน มนุษย์จะต้องบอกขั้นตอนวิธีการให้คอมพิวเตอร์ทราบ การที่บอกสิ่งที่มนุษย์เข้าใจให้คอมพิวเตอร์รับรู้ และทำงานได้อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องมีสื่อกลาง ถ้าเปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันแล้ว เรามีภาษาที่ใช้ในการติดต่อซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกันถ้ามนุษย์ต้องการจะถ่ายทอดความต้องการให้คอมพิวเตอร์รับรู้และปฏิบัติตาม จะต้องมีสื่อกลางสำหรับการติดต่อเพื่อให้คอมพิวเตอร์รับรู้ เราเรียกสื่อกลางนี้ว่าภาษาคอมพิวเตอร์
เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสัญญาณทางไฟฟ้า ใช้แทนด้วยตัวเลข 0 และ 1 ได้ ผู้ออกแบบคอมพิวเตอร์ใช้ตัวเลข 0 และ 1 นี้เป็นรหัสแทนคำสั่งในการสั่งงานคอมพิวเตอร์ รหัสแทนข้อมูลและคำสั่งโดยใช้ระบบเลขฐานสองนี้ คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ เราเรียกเลขฐานสองที่ประกอบกันเป็นชุดคำสั่งและใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์ว่าภาษาเครื่อ
การใช้ภาษาเครื่องนี้ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้ทันที แต่มนุษย์ผู้ใช้จะมีข้อยุ่งยากมาก เพราะเข้าใจและจดจำได้ยาก จึงมีผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่เป็นตัวอักษร เป็นประโยคข้อความ ภาษาในลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูง ภาษาระดับสูงมีอยู่มากมาย บางภาษามีความเหมาะสมกับการใช้สั่งงานการคำนวณทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บางภาษามีความเหมาะสมไว้ใช้สั่งงานทางด้านการจัดการข้อมูล
ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง ดังนั้นจึงมีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับแปลภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง โปรแกรมที่ใช้แปลภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องเรียกว่า คอมไพเลอร์ (compiler) หรืออินเทอร์พรีเตอร์ (interpreter)
คอมไพเลอร์จะทำการแปลโปรแกรมที่เขียนเป็นภาษาระดับสูงทั้งโปรแกรมให้เป็นภาษาเครื่องก่อน แล้วจึงให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามภาษาเครื่องนั้น
ส่วนอินเทอร์พรีเตอร์จะทำการแปลทีละคำสั่ง แล้วให้คอมพิวเตอร์ทำตามคำสั่งนั้น เมื่อทำเสร็จแล้วจึงมาทำการแปลคำสั่งลำดับต่อไป ข้อแตกต่างระหว่างคอมไพเลอร์กับอินเทอร์พรีเตอร์จึงอยู่ที่การแปลทั้งโปรแกรมหรือแปลทีละคำสั่ง ตัวแปลภาษาที่รู้จักกันดี เช่น ตัวแปลภาษาเบสิก ตัวแปลภาษาโคบอล
ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงเป็นส่วนสำคัญที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้ดำเนินการตามแนวความคิดที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว คอมพิวเตอร์ต้องทำงานตามโปรแกรมเท่านั้น ไม่สามารถทำงานที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในโปรแกรม